0.00 ฿
What are you Looking for?
หลายๆคนอาจทราบอยู่แล้วว่า ปุ๋ย K (โพแทสเซียม) เป็นปุ๋ยที่ช่วยเพิ่มความหวานของผลไม้ เลยเน้นใส่ปุ๋ย K เยอะๆ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ คือ เมล่อนก็ไม่ได้หวานมากกว่าเดิม เป็นเพราะว่า การให้ปุ๋ย K เป็นแค่ส่วน 1 ในอีกหลายๆขั้นตอนของการทำหวานเมล่อน การที่จะทำเมล่อนให้หวานจะต้องดูแลให้เริ่มสร้างความสมบูรณ์ให้กับต้น ให้แข็งแรงตั้งแต่แรกเราต้องให้ปุ๋ยตามที่เมล่อนในแต่ละช่วงอายุเพื่อสร้างความสมบูรณ์ของต้นและพร้อมที่จะทำหวาน พอถึงเวลาทำหวานพืชจะดูดอาหารทั้งหมดที่สะสมไว้ที่ใบมาให้ที่ลูกเองโดยธรรมชาติ ฉะนั้นการเน้นให้เร่งปุ๋ย K ในช่วงติดผลจึงไม่ถูกต้องทั้งหมด
ก่อนอื่นต้องเข้าใจกลไกความหวานก่อน ความหวานในผลไม้เกิดจาก 3 ขั้นตอนนี้
การสะสมอาหารของใบ ได้จากการที่รากดุดปุ๋ยจากดินขึ้นมาที่ใบ (เดี่ยวนี้วิวัฒนาการทันสมัยมีการให้ปุ๋ยทางใบ เสริมทางดิน เพิ่มประสิทธิภาพได้มากขึ้น)
ใบที่มีการสะสมอาหารที่มากพอ จะมีลักษณะ
ถ้าใบเขียวเข้ม ใหญ่ หนา และเยอะ ถือว่าต้นไม้สมบูรณ์
แต่ถ้าใบเขียวสด (ไม่ใช่เขียวเข้ม) เยอะแต่ไม่หนา เรียกว่า “บ้าใบ” แบบนี้เมล่อนจะไม่หวาน แล้วถ้าใบสะสมอาหารเต็มที่ จะย้ายไปสะสมที่กิ่งก้าน กิ่งก้านจะอวบอ้วนเต่ง
จากนั้นใบจะทำหน้าที่สังเคราะห์แสง เปลี่ยนเหมือนเป็นโรงครัว ที่ที่ปรุงธาตุอาหารที่ได้ (ทั้งทางดิน และทางใบN P K Ca Mg S B Fe Mn Zn Cu MO Ni Cl น้ำ และอากาศ) เป็นอาหารที่พืชกินได้ นั่นก็คือ แป้ง น้ำตาล กรดอะมิโน ฮอร์โมน เอ็นไซน์ วิตามินต่างๆ กลิ่น สี รส
ดังนั้นถ้าใบไม่มีอาหาร ก็ไม่มีแป้ง ไม่มีน้ำตาล และไม่มีสารอาหารอื่นๆ (เช่น วิตามิน แร่ธาตุ) จึงไม่มีอะไรย้ายมาที่ลูก ต่อให้ใส่อะไรไปผลก็จืด คราวนี้ถ้าใบมี สารอาหารต่าง ๆ สารอาหารเหล่านี้จะย้ายมาที่ผล
พืชจะย้ายแป้ง น้ำตาล และสารอาหารต่างๆ เช่น วิตามิน แร่ธาตุ กลิ่น มาที่ลูกกลไกการย้ายมาจาก ความเข้มข้นของสารแป้ง และสารต่างๆ ที่ผลิตที่ใบ นึกออกไหมครับ พอใบสังเคราะห์แสงเก็บสารอาหารต่างๆ เช่น แป้ง น้ำตาลไว้ในใบระดับความเข้มข้นของแป้ง น้ำตาลที่ใบ ก็จะสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ คราวนี้ ผลที่เพิ่งเกิดก็ยังไม่มีสารอาหารต่างๆ ในลุก ความเข้มข้นของแป้ง น้ำตาลจะต่ำ แป้ง น้ำตาลจากใบก็จะไหลผ่านท่ออาหารเข้ามาที่ลูก และซึมเข้าไปในผลโดยการทำงานของโพแทสเซียม (K) ร่วมกับ โบรอน (B) ดังนั้น K จึงเปรียบเสมือนปุ๋ยเคลื่อนย้ายความหวาน และแร่ธาตุต่าง ๆ นั่นคือ K และ B เป็น ระบบขนส่งภายในของต้นไม้โดยมีท่ออาหารเป็นเหมือนถนน
นี่ก็เป็นหลักการและพื้นฐานการทำหวานเมล่อน เมื่อเรามีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เราก็สามารถปลูกเมล่อนที่หวานได้โดยไม่เสียค่าปุ๋ยที่มากจนเกินไป และสามารถพัฒนาเทคนิคการปลูกของตัวเองได้อย่างมีหลักการ และมีการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามการปลูกเมล่อนสามารถสอบถามได้ที่ LINE: @bokujoufarm หรือติดตามเรื่องราวการทำ “ภูมินิเวศเกษตร” ได้ที่ เพจ นิทานบ้านไร่ bokujou
เมล่อนของ “นิทานบ้านไร่ bokujou” ปลูกในรูปแบบของ “ภูมินิเวศเกษตร” ปลอดสารพิษและมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรับประกันความหวาน หากสนใจเมล่อนของ นิทานบ้านไร่ bokujou สามารถจองได้ที่ LINE: @bokujoufarm เราเปิดจองพร้อมโปรโมชั่นในแต่ละเดือน ผ่านทางLINEที่คนชอบผลไม้ต้องไม่พลาด