0.00 ฿
What are you Looking for?
ถ้าเราจะให้ใครสักคนยืมเงิน ควรจะพิจารณาก่อนว่า “ถ้าให้ยืมแล้ว จะได้คืนมั๊ย” ถ้าคิดว่าไม่ได้คืน ก็อย่าให้ยืม แต่ถ้ายังอยากให้ยืมก็พิจารณาดีๆว่า เงินก้อนนี้ถ้าเขาไม่คืนเราจะเดือดร้อนมั๊ย . . . พูดกับเขว่า”ให้ยืม”นะครับอย่าให้ เพราะถ้าเขายืมไปแล้วไม่มีความตั้งใจจะคืน แล้วยังมาขอยืมอีก และเราไม่อยากช่วย จะได้มีข้ออ้างไม่ให้ยืม แต่ถ้าใครอยากช่วยอีกรอบก็ช่วยไป ส่วนใครที่อยากจะทวง สามารถทวงได้ตามเทคนิคต่อไปนี้
ลูกหนี้ประเภทนี้ทวงยาก เพราะพูดไปก็ไม่ตอบ เราพูดไปก็ทำเป็นไม่ได้ยิน ลูกหนี้ประเภทนี้เขาจะทำเราเหมือนไม่มีตัวตน เขาจะอดทนจนเราเหนื่อยและท้อไปเอง โดยที่เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย
วิธีที่จะทวงได้คือ ต้องใช้กฎหมาย แต่ถ้าคุณไม่อยากใช้กฏหมาย อยากจะลองเจรจาดูก่อนจะต้องใช้ “คำถาม” ถามอย่างต่อเนื่อง ผสมผสาน คำถามที่ตอบ ใช่-ไม่ใช่ และคำถามที่จะต้องตอบยาวๆ (ทำไม? อย่างไร?) เพราะคำถามจะทำให้เขาคิด แม้เขาจะทำเป็นไม่ได้ยินแต่จริงๆเขายังได้ยินอยู่ ลูหนี้ประเภทนี้มักจะรู้มากแผนเยอะ เราจึงจะต้องถาม ดึงความคิดเขาออกมาให้ได้
ลูกหนี้ประเภทนี้ทวงง่ายหน่อย เพราะเขาพูด เขาจะสรรหาเหตุผลร้อยแปดพันเก้าเหตุผลที่จะไม่คืน แต่ยังไงลูกหนี้ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่คืน
วิธีที่จะทวงลูกหนี้ประเภทนี้คือ ฟัง ฟัง ฟัง และฟังเขา แต่ไม่คล้อยตามเขา ทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีเพื่อปล่อยให้เขาพูดมาให้หมด ถ้าเขาพูดนอกเรื่องให้ชวนกลับมาคุยในเรื่อง ทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีแต่ไม่คล้อยตามเขา ใช้ “คำถาม” หลอกให้เขาพูดออกมาให้หมดก่อน แล้วรวบรวมรายละเอียดเพื่อสรุปประเด็น สรุปประเด็นของหนี้ ที่มีผลต่อชีวิตของเรา ครอบครัวเรา ลูกน้องของเรา พูดให้เขารู้พูดให้เขาคิดว่า การที่เขาทำแบบนี้มันส่งผลกระทบต่อคนอื่น แล้วสรุปเรื่องการชำระหนี้ต่อทันที สรุปว่าเขาจะต้องชำระหนี้อย่างไรและเพราะอะไร และ”ถาม”เขาว่าจะนัดชำระหนี้เมื่อไหร่(โดยให้เขาพูดเอง) แต่อย่าให้เขาเลื่อนนัดไปไกล ถ้านัดไกลไปให้ต่อรองด้วยคำถาม(ให้เขาเป็นฝ่ายพูด) “เร็วกว่านี้ได้มั๊ย” “นานเกินไป [ผมมีค่าเทอร์มลูกต้องจ่ายวันXX . . . เร็วกว่านี้ได้มั๊ย]” และเมื่อถึงวันนัดยังไงคุณก็ต้องเก็บหนี้บางส่วนให้ได้ เท่าไหร่ก็เอา
ลูกหนี้ประเภทนี้น่าเบื่อมาก เพราะเขาเตรียมสคิปที่จะพูดที่จะมาใช้กับเราเรียบร้อยแล้ว การพูดจึงดูมีหลักการ พร้อมจะพูดขัดและพูดแทรก และอีกสารพัดเทนิคเลี่ยงสารพัดเหตุผล ที่น่ารำคาญคือมีการพยายามเล่นแง่กฏหมายว่าเราไม่มีสิทธิบ้าง แถมยังท้าทายเราให้ไปฟ้องอีก
ถ้าคุณไม่เอาจริงอย่าเล่นตามเกมส์เขาเด็ดขาด เพราะเขาจะรู้แล้วว่าคุณไม่มีอำนาจต่อรองด้านนี้จริงๆ ให้พูดไปว่า “ผมจะฟ้องคุณเมื่อไหร่ก็ได้ และถ้าผมคิดจะฟ้องผมไม่มาคุยกับคุณหลอก แต่ที่ยังคุยอยู่เพราะผมเคารพและให้เกียรติคุณมาก” ให้ใช้คำพูดนี้เปลี่ยนเกมส์ เปลี่ยนจากที่เขากำลังรุกท้าทายเรา กลายเป็นให้เขารู้สึกเกรงใจขึ้นมา
ต่อมา เราต้องเตรียมตัวเตรียมข้อมูลหลักฐานให้ดี วันที่ซื้อสินค้า วันที่ติดหนี้ เวลาขั้นตอนในการทวง การพูด คำพูด การรับปากทั้งของคุณและของเขาทั้งหมดแบบละเอียด แล้วถามเขากลับว่า “ถ้าเขาเป็นเรา จะทำยังไง?” อาจจะเสริมดราม่าที่ตรงกับชีวิตเขาเข้าไปด้วย (ค่าเทอร์มลูก คุณพ่อป่วย) เพราะเราพยายามที่จะประนีประนอมแล้ว ทั้งที่เราเป็นเจ้าหนี้ แต่เขากลับเล่นแง่กับเรา
บุคลิคนี้ดูเหมือนจะไม่น่ากล้าเบี้ยวหนี้เรา แต่ก็อาจจะกิดขึ้นได้เพราะคนรอบข้างเขา อาจจะเป็นเพื่อนของเขาหรือเจ้าหนี้อีกคนบอกให้เขา ชำระหนี้เราทีหลัง คนประเภทนี้จะกลัวขี้เกรงใจไม่กล้าปฏิเสธ แต่เขาอาจจะปฏิเสธคุณ เพราะ . . . เขามีคนที่ต้องเกรงใจคนอื่นมากกว่าคุณ
ลูกหนี้ประเภทนี้ทวงง่ายก็จริง แต่ถ้าเขามีเจ้าหนี้เยอะต้องรีบทวง เพราะใครทวงก่อนได้ก่อน ใช้ความชัดเจนถึงผลลัพธ์ทั้งด้านดีและด้านเสียคุยกับเขาดีๆ ให้เน้นมากๆว่า เขาไม่จำเป็นต้องทำให้เกิดเรื่อง ลูกหนี้ประเภทนี้คุณสามารถใช้เรื่องกฎหมายคุยให้เขายอมได้ แต่อย่าลืมแนะทางออกให้เขาด้วยว่าเขาควรทำยังไงกับหนี้ที่ติดเราอยู่ พยายามเป็นที่ปรึกษาเขาที่ดี แต่อย่าลืมให้เขาคืนเงินเราก่อน แต่ถ้าการคุยดีๆไม่ได้ผล ให้ใช้ไม้แข็งขึ้นอีกหน่อยคือ เชิญผู้ใหญ่ ผู้อาวุโส หรือ เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย
ลูกหนี้ประเภทนี้จะไม่มีเหตุผล การโวยวายเป็นอุปนิสัยส่วนตัว มันช่วยป้องกันตัวเอง เขามีความคิดและเชื่อว่าถ้าเขาโมโห โวยวายจะไม่มีใครเข้าใกล้หรืออยากมีปัญหากับเขา เขาสร้างสิ่งนี้เป็นเป็นเกราะป้องกันตัวของเขา บ้างก็ติดจนเป็นสันดาน
การที่จะทวงเงินจากคนพวกนี้ จำไว้อย่างว่า “ไฟแพ้น้ำ” คุณอย่าเป็นไฟไปเสริมให้ทุกอย่างมอดไหม้ ให้นิ่งทำตัวเป็นน้ำ คุณจะต้องเตรียมตัวให้ดีเตรียมตัวให้พร้อม คนพวกนี้จะโมโหโวยวายได้ถ้าคุณมีข้อผิดพลาด เพราะฉนั้นคุณจะต้องเตรียมรา
ประเภทบอกปัดขอเลื่อนไปเรื่อยๆ เขาไม่คิดจะคืนอยู่แล้ว แต่ไม่อยากบอกตรงๆ ถ้าคุณเชื่อหรือตามเกมส์เขา ครั้งหน้าคุณก็จะเจอแบบนี้อีก เจอคำพูดเดิมๆ เช่น “สิ้นเดือนนี้คืน” พอสิ้นเดือนก็บอก “เงินเดือนยังไม่ออก ศุกร์นี้ได้แน่นอน” พอวันศุกร์ “เงินเดือนยังไม่ออก ขอเป็นวันจันทร์” เขาหลอกให้ความหวังคุณไปเรื่อยๆว่าคุณจะได้คืน พอสุดท้ายมันก็จะวนมาอันเดิม หรือหมดมุขก็จะเริ่มหลบไม่ให้เจอหน้า หรือติดต่อยาก
เขาตั้งใจปัดไม่ได้ตั้งใจคืน อย่าเชื่อคำพูดเขา จำไว้ว่า “เขาตั้งใจปัดไม่ได้ตั้งใจคืน” ถ้าวันนี้ยอมเขาหรือเชื่อเขา วันหน้าคุณก็จะเจอแบบนี้อีก สิ่งที่จะช่วยคุณได้คือ “สัญญา” ทำเป็นลายลักษณ์อักษร และคำพูดของเขาเอง คำพูดเขาที่พูดว่า “วันXXคืนแน่นอน” คำพูของคนประเภทนี้เชื่อถือไม่ได้ ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นตัวอักษรลงในสัญญา และสิ่งที่เราต้องเตรียมตัวเพิ่มคือ เขาอาจจะเปลี่ยนเป็นลูกหนี้ประเภทอื่น เพราะเขาจนมุมด้วยคำพูดของเขาเอง
แค่ไม่ใช้หนี้ก็เรียกได้ว่า “ขาดความรับผิดชอบ” อยู่แล้ว ยิ่งการใช้คนอื่นมารับหน้าแทนก็พูดได้ว่า “ขาดความกล้ารับผิด” และ “ไม่มีความเป็นผู้นำ” ประเภทนี้ปกติก็จะเป็นคนถ่วงความเจริญอยู่แล้ว หากคุณเป็นเจ้าของบริษัทและมีพนักงานแบบนี้ คุณควรจะไล่เขาออกซะ เพราะเขาคือตัวปัญหาที่แท้จริงขององค์กรณ์ รีบไล่ออกก่อนคนดีๆจะออกเพราะทนเขาไม่ไหว และหากเรามีเจ้านายแบบนี้ถ้าเปลี่ยนเจ้านายไม่ได้ก็เปลี่ยนที่ทำงาน
ลูกหนี้ประเภทนี้จะส่งคนอื่นมาคุยกับเราแทน คุณอย่าลืมว่าคนที่เรากำลังคุยด้วยไม่ใช่ลูกหนี้โดยตรงของเรา คุยกับเขาดีๆดึงมาเป็นพวกก่อน แล้วแก้เกมส์กลับโดยให้ตกลงทำสัญญาเลยโดยถามเขาก่อนว่า “เขาคือคนที่มีอำนาจตัดสินใจใช่มั๊ย” และให้เขาโทรเช็คกับลูกหนี้ของเขาด้วยว่า “เขาได้สิทธิ์ตัดสินใจเลยใช่มั๊ย” (ถ้าเป็นไปได้อัดเสียงด้วย) เพราะถ้าคนที่อยู่ต่อหน้าคุณไม่มีอำนาจตัดสินใจอะไรก็ไม่มีประโยชน์ที่จะคุย
นี่ก็เป็นเทคนิคการทวงเงินกับคนแต่ละประเภท แต่ก็เป็นการแก้ปัญหา วิธีที่ดีที่สุด เราควรจะป้องกันปัญหามากกว่า คือไม่ให้ยืมหรือให้ยืมในจำนวนที่ไม่สร้างปัญหาให้เรา แล้วก็ไม่ให้ยืมอีก