0.00 ฿
What are you Looking for?
เมล่อนเป็นผลไม้ที่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ปลูกวันนี้นับไปอีกประมาณ 10-12 สัปดาห์ ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว (ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์) แต่รู้มั๊ยว่าเมล่อนในแต่ละฤดูก็จะมี รสชาติ ความหวาน หรือเนื้อแตกต่างกันไป(แม้จะเป็นพันธ์เดียวกัน) ซึ่งมีสาเหตุจากความแตกต่างของสภาพอากาศของแต่ละฤดู โดยแต่ละฤดูเมล่อนจะมีจุดเด่นดังนี้
การจะเปรียบเทียบอะไร ก็ต้องมีค่ากลางหรือเกณมาตราฐาน ถ้าจะเอาเมล่อน3ฤดูมาเปรียบเทียบกัน ตัวมาตรฐานก็ต้องเป็นเมล่อนฤดูร้อน เพราะฤดูร้อนเป็นฤดูที่ปลูกง่ายที่สุด
ฤดูร้อนลูกเมล่อนจึงมีขนาดใหญ่กว่าฤดูอื่น ฤดูร้อนมีความเข้มของแสงอาทิตย์มากกว่าฤดูอื่นและสม่ำเสมอ ทำให้ต้นเมล่อนมีการสังเคราะห์แสงและเติบโตได้ดีมากๆ ลูกเมล่อนจึงมีการขยายตัวได้เร็ว สามารถสร้างแป้งหรือความหวานได้มาก เมล่อนฤดูร้อนจึงมีลูกที่ใหญ่และหวาน
ฤดูฝนเป็นฤดูที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย บางวันแดดดี บางวันฟ้าปิดไม่มีแดด เดี๋ยวฝนตก เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะช่วงเมล่อนติดผล เกิดเจอวันฟ้าปิดหลายๆวัน เมล่อนก็จะมีการสังเคราะห์แสงที่น้อย ส่งผลให้เมล่อนหวานน้อยกว่าฤดูอื่นๆ แต่เมล่อนจะมีเนื้อที่แน่นกว่าฤดูอื่นๆ
ฤดูหนาว เมล่อนจะมีลายชัดสวย แต่สภาพอากาศก็เป็นฤดูที่ช่วงแสงสั้นและเย็น ทำให้ต้นเติบโตได้ช้า ลูกเมล่อนที่จะเล็ก แต่ถ้ารักษาดูแลต้นได้ดีเท่าเหมือนฤดูร้อน ความหวานที่อัดอยู่ในลูกที่เล็กกว่า เมล่อนจะหวานกว่าฤดูร้อน และถ้าสามารถรักษาขนาดของลูกให้ได้เท่ามาตราฐาน มันก็จะเป็นเมล่อนพรีเมียมที่ ลูกโตใหญ่ ลายชัดสวย และหวาน
นี่ก็เป็นความแตกต่างของเมล่อนในแต่ละฤดู แต่ฤดูไม่ใช่ตัวกำหนดความอร่อยหรือความหวานของเมล่อนทั้งหมด ฤดูเป็นเพียง 1 ในหลายๆปัจจัยของคุณภาพเมล่อน ยังมีรายละเอียดเรื่องของปลูกอีกมาก และคุณภาพของเมล่อนก็ไม่ได้มีเพียงความหวานหรือความอร่อย ต้องมีเรื่องของความปลอดภัยจากสารเคมีหรือสารพิษด้วย
เมล่อนของ “นิทานบ้านไร่ bokujou” ปลูกในรูปแบบของ “ภูมินิเวศเกษตร” ปลอดสารพิษและมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรับประกันความหวาน หากสนใจเมล่อนของ นิทานบ้านไร่ bokujou สามารถจองได้ที่ LINE: @bokujoufarm เราเปิดจองพร้อมโปรโมชั่นในแต่ละเดือน ผ่านทางLINEที่คนชอบผลไม้ต้องไม่พลาด