การปลูกแครอท

          แครอท (Daucus carota) เป็นพืชผักประเภทราก ขยายเป็นหัวอยู่ใต้ดิน ปลูกเพื่อนำส่วนของรากมาเป็นอาหาร มีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ในยุโรป เอเชีย และอเมริกาเหนือ เป็นพืชผักที่ต่างประเทศนิยม เนื่องจากมีคุณค่าทางอาหารสูง คือมีแร่ธาตุแคโรทีนที่ก่อให้เกิดวิตามินเอ ไทอมิน และไรโบเพลวิน ในประเทศไทยมีผู้นิยมค่อนข้างมาก และมีวางขายอยู่ในตลาดทั้งปี
          แครอทมีลักษณะคล้ายต้นผักชี แต่มีรากใหญ่กว่ามาก รากที่ขยายเป็นหัวนี้คือรากแก้ว ลำต้นแครอทสั้นนิดเดียว มีความยาวประมาณ 1 เซนติเมตรเท่านั้น ส่วนหนึ่งของลำต้นยังลึกลงไปในหัวประมาณครึ่งหนึ่ง เวลาเก็บเกี่ยวจึงนิยมหักลำต้นและใบออกจากหัวหรือรากเกือบทั้งหมด

พันธุ์ปลูก

ในประเทศไทยชาวสวนนิยมปลูกพันธุ์แซนติเนย์ (Chantenay) ซึ่งลักษณะรากอ้วน สั้น เมื่อโตเต็มที่ยาว 5 – 6 นิ้ว ส่วนกว้างที่สุดของรากซึ่งอยู่ชิดกับลำต้นมีขนาด 1.5 – 2 นิ้ว แล้วแต่พันธุ์ รากมีสีส้มเข้ม แครอทที่มีรากผอมและขนาดยาวได้แก่พวกแดนเวอร์ และอิมเพอเรเตอร์ ไม่ค่อยนิยมปลูก เพราะรากผอมและยาว จะหักง่ายขณะขนส่ง

          ดินปลูกและการเตรียมดิน การเลือกที่ปลูกแครอทเป็นสิ่งสำคัญ ต้องเลือกที่ดินร่วนและมีการระบายน้ำดี หน้าดินลึก พวกแครอทที่มีรากใหญ่ต้องการดินที่สมบูรณ์ แต่พวกเบบี้แครอทและพวกรากกลม ดินที่สมบูรณ์ต่ำและปานกลางก็ใช้ได้ เพราะปลูกเพื่อต้องการรากขนาดเล็ก แต่ก็ต้องปรับอัตราการใช้ปุ๋ยให้เหมาะสม
          หัวแครอทที่สมบูรณ์จริงๆ นั้น มีความยาว 20 – 25 เซนติเมตร เมื่อต้องการปลูกให้ได้หัวที่สวยงามจึงต้องเตรียมหน้าดินให้ร่วนซุยไม่ต่ำกว่า 40 เซนติเมตร อินทรีย์วัตถุเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ดินโปร่งขึ้น รากจึงจะเจริญเติบโตได้ดี จึงอาจต้องใสปุ๋ยอินทรีย์ 1 – 2 ตันต่อไร่
          พีเอชที่เหมาะสม คือ 6.5 ดินเหนียวในภาคกลางหากปรับให้ดีก็ยังพอปลูกแครอทได้ การทำให้ดินเหนียวร่วนโปร่ง ก่อนขุดดินเตรียมแปลงปลูกต้องหมั่นรดน้ำให้ดินอ่อนตัวลงสัก 3 วันติดต่อกัน ควรรดน้ำตอนเช้าจนดินเปียกชุ่ม พอครบ 3 วันดินอ่อนตัวก็สามารถใช้จอบขุดได้ ขุดขึ้นมาทีละชั้นเพื่อผ่อนแรง เว้นแต่จะใช้รถไถก็สะดวกดี ดินที่ขุดขึ้นมาก้อนโตๆ ตากแดดทิ้งไว้สัก 10 วัน แล้วหมั่นเอาน้ำไปรดตอนเช้าๆ พอครบ 7 วัน ดินก้อนโตก็จะแตกตัวเป็นดินร่วนได้เอง
          แปลงปลูกทั่วไปต้องเตรียมดินให้ดีโดยไถ 2 ครั้ง ย่อยดินให้ละเอียด การยกร่อง ถ้าเป็นพันธุ์แซนติเนย์ ควรปลูกเป็นแถวเดียว ระบบการให้น้ำเป็นแบบร่อง หรือสปริงเกอร์ หรือใช้สายยางฉีด ระยะระหว่างแถว 75 เซนติเมตร
          ถ้าปลูกเบบี้แครอทหรือแครอทรากกลม การเตรียมดินต้องปราณีตกว่า ขนาดแปลงกว้าง 1 เมตรรวมทางเดินด้วย ปรับผิวแปลงกว้าง 60 เซนติเมตร สูง 15 – 20 เซนติเมตร หน้าแปลงต้องปรับดินเรียบและย่อยดินให้ละเอียด
          ปุ๋ยรองพื้นนอกจากปุ๋ยอินทรีย์แล้ว ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 อัตรา 40 กก.ต่อไร่ การใส่ปุ๋ยรองพื้นให้ใช้จอบเปิดร่องอีก 15 เซนติเมตร แล้วหว่านปุ๋ยลงในร่อง โรยทับด้วยปุ๋ยอินทรีย์ ทำร่องตามแนวยาวตื้นๆ 1.5 – 2 เซนติเมตร เพื่อหว่านเมล็ด
          แครอทเจริญเติบโตได้ดีในฤดูหนาว ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ควรปลูกในเดือนตุลาคมถึงมีนาคม ส่วนในฤดูร้อนและฤดูฝนจำเป็นต้องปลูกในภาคเหนือบนที่สูงอย่างเดียว

วิธีปลูก

          เมล็ดแครอทมีขนาดเล็กมาก ต้นกล้าอ่อนในเมล็ดมีความแข็งแรงเพียง 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น การหว่านหรือหยอดเมล็ดให้ตกสม่ำเสมอบนแปลงอาจใช้ทรายผสมกับเมล็ด 3:1 ก่อนหว่านเมล็ดต้องรดน้ำให้ผิวแปลงปลูกชุ่มชื่น หว่านเมล็ดแล้ว หว่านฟูราดานในร่องด้วย ถ้าให้ดีใช้ปุ๋ยหมักโรยทับบนร่องตื้นๆ เมล็ดที่ใช้ประมาณไม่เกิน 1 กก.ต่อไร่ จากนั้นใช้ฟางคลุมบนแปลงตามแนวที่หว่านไว้ ใช้ยากันราไดแทนเอ็ม 45 อัตรา 4 ช้อนแกงต่อน้ำ 1 ปี๊บ รดบนร่องประมาณ 5 – 7 วัน เมล็ดจะงอก

การให้น้ำใส่ปุ๋ย

  • ถ้าให้น้ำแบบร่องให้ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ถ้าให้แบบสปริงเกอร์ หรือใช้สายยางฉีดพ่น ให้น้ำทุกวันๆ ละครั้ง
  • ปุ๋ยที่แครอทต้องการคือปุ๋ยที่มีธาตุโปแตสเซียมมากกว่าธาตุอื่นๆ ทางที่ดีควรวิเคราะห์ดินเสียก่อนแล้วจึงพิจารณาใส่ปุ๋ย ส่วนการดูแลรักษาอื่นๆ เช่น การปราบวัชพืช ให้ทำเป็นระยะตามความจำเป็นตลอดฤดูปลูก 3 – 4 ครั้ง
  • โดยมากเมล็ดจะงอกไม่เป็นแถวตรง ได้ระยะไม่เป็นที่ต้องการ จึงต้องถอนแยกเพื่อจัดระยะปลกใหม่
  • ระยะที่หนึ่ง ถอนแยกเมื่อต้นงอกได้ 20 วัน ความสูงของต้นจากผิวดิน 10 – 15 เซนติเมตร ควรถอนต้นที่บอบบางมีลักษณะทอดยาวประมาณ 1 – 1.5 เซนติเมตรออกให้หมด เพราะต้นเหล่านี้ จะให้หัวที่ไม่สมบูรณ์ เมื่อจัดระยะแล้ว ควรใส่ปุ๋ยแต่งหน้าครั้งที่ 1 ใช้สูตร 21-0-0 อัตรา 20 กก.ต่อไร่ ใส่หว่านเป็นแถวข้างร่อง แล้วรดน้ำตามทันที
  • ระยะที่สอง ถอนแยกเมื่ออายุ 50 วัน ถอนแยกครั้งนี้จะคงไว้เฉพาะต้นที่สมบูรณ์จริงๆ โดยใช้ระยะห่างระหว่างต้น 12 – 15 เซนติเมตร หลังจากถอนแยกแล้วต้นจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วันรากแครอทพุ่งตรงและลึกไปในดินได้มากกว่า 15 เซนติเมตร ขณะเดียวกันรากก็ขยายตัวออกทางด้านข้าง และเปลี่ยนจากสีขาวมาเป็นสีส้มจนถึงปลายราก การไม่รีบถอนแยกแครอทจะเจริญเติบโตทางลำต้นและไม่ลงหัว หรือลงหัวบ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
  • ระยะหลังนี้ควรใส่ปุ๋ยเป็นครั้งที่ 2 โดยใช้สูตร 13-13-21 อัตรา 25 – 30 กก.ต่อไร่ ใส่หลังจากพรวนดินและเก็บวัชพืชเสร็จแล้ว

การเก็บเกี่ยว

          เมื่อแครอทอายุ 70 – 90 วันหลังจากหยอดเมล็ดก็ทำการเก็บเกี่ยวได้ ก่อนเก็บเกี่ยวควรรดน้ำแปลงปลูกให้ชุ่ม เพื่อให้เก็บเกี่ยวได้ง่ายขึ้น ควรใช้พลั่วมือขนาดเล็กช่วยคุ้ยดิน ใช้มือรวบใบทั้งหมดแล้วถอนขึ้นมาตรงๆ หักใบและลำต้นให้หลุดออกจากขั้ว รีบนำเข้าเก็บไว้ในร่ม นำหัวไปล้างเอาดินออก จะเห็นผิวแครอทเป็นสีส้มใสสะอาด ควรฝั่งลมให้หัวแห้งสนิทดีก่อนส่งไปขาย
          แครอทพันธุ์แซนติเนย์ ให้ผลผลิต 2 – 3 ตันต่อไร่

          นี่ก็เป็นเกร็ดความรู้เรื่อง “การปลูกแครอท” ที่นิทานบ้านไร่นำมาเล่าให้ฟัง ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่เราพร้อมจะแบ่งปัน โดยเฉพาะการทำ “ภูมินิเวศเกษตร” การเกษตรปลอดสารพิษที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และใช้สิ่งแวดล้อมมาช่วยทำเกษตร สามารถติดตามได้ที่ FANPAGE นิทานบ้านไร่ bokujou หรือขอคำปรึกษาการทำ “ภูมินิเวศเกษตร” ได้ที่ LINE: @bokujoufarm

ถ้าชอบทความ หรือสาระความรู้นี้มีประโยชน์
อย่าลืมแชร์ต่อให้เพื่อนๆได้อ่านด้วยนะครับ

Top